สายตายาว มองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน ตาพร่ามัว เป็นสัญญาณเตือนการมองเห็นกำลังเข้าขั้นวิกฤต เสี่ยงเป็นโรคต้อในอนาคต ผู้เชี่ยวชาญแนะให้รีบรักษาโดยด่วน!

หลังจากเกษียณอายุมาได้เกือบ 10 ปี ดร.ทวีศักดิ์ รัตนาณุกรณ์ ศาสตราจารย์ นักวิชาการ และแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยาได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดของตนเอง อุทิศตนศึกษาปัญหาทางสายตาที่มักเกิดขึ้นกับคนไข้สูงวัยหลายต่อหลายคนอย่างละเอียด ซึ่งตอนนี้เขาค้นคว้าจนประสบความสำเร็จและค้นพบวิธีป้องกันอาการเหล่านั้นได้แล้ว และยังสามารถช่วยฟื้นฟูการมองเห็น รวมถึงบำรุงสายตาให้กลับเป็นปกติได้อีกด้วย!

แต่สิ่งที่ ดร.ทวีศักดิ์ พบเจอระหว่างการศึกษากลับสร้างความประหลาดใจให้กับสาธารณสุขไทยเป็นอย่างมาก ดร.ทวีศักดิ์เปิดเผยว่า

อาการเริ่มต้นของโรคต้อ เริ่มมาจากความผิดปกติของดวงตาที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ

จากที่มีอาการเพียงแค่แสบตา สายตายาว มองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน แต่เพิกเฉยปล่อยไว้นาน อาการสามารถลุกลามรุนแรงจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นและตาบอดได้ในที่สุด นี่คือสิ่งที่ร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนแล้ว

ในบทสัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้ ทางเราได้ต่อสายตรงไปถึง ดร.ทวีศักดิ์ รัตนาณุกรณ์ เพื่อให้เขาอธิบายถึงวิธีป้องกันดวงตาไม่ให้สูญเสียการมองเห็น ด้วยวิธีการรักษาแบบใหม่ที่เขาเป็นผู้ค้นพบขึ้นเองอย่างละเอียด

ผู้สื่อข่าว : สวัสดีค่ะคุณหมอทวีศักด์ รัตนาณุกรณ์ เกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่คุณกำลังศึกษาปัญหาดวงตาเหรอคะ มีอะไรที่ผู้อ่านควรรู้ไหม คุณช่วยเปิดเผยให้ทราบหน่อยได้ไหมคะ?

ดร.ทวีศักดิ์ : สิ่งที่ผมได้ค้นพบมันเป็นอะไรที่ใครหลายต่อหลายคนมองข้ามมากเลยล่ะครับ ไม่เพียงแต่ตัวคนไข้เอง แต่หมอหลายคนก็เมินเฉยต่อความผิดปกติของดวงตาพวกนี้ด้วยครับ เนื่องจากกระบวนการทำงานทั้งหมดของดวงตาต้องอาศัยน้ำหล่อเลี้ยงไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ ในระบบ เพราะน้ำที่ไหลเวียนอยู่นั้นจะลำเลียงสารอาหารจำเป็น ออกซิเจน รวมถึงยังช่วยปรับสมดุลความดันภายในลูกตาให้คงที่ ซึ่งน้ำหล่อเลี้ยงนี้จะไหลผ่านเลนส์ตา จอประสาทตา กล้ามเนื้อตา ไปจนถึงกระจกตาชั้นใน ทำให้ดวงตาสามารถมองเห็นได้เป็นปกติและเพิ่มประสิทธิภาพขณะใช้การสายตาได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ สำหรับดวงตาครับ หากให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนหัวใจของระบบการมองเห็นเลยครับ ดังนั้น ถ้าหากมีปริมาณน้ำในดวงตาไม่เพียงพอหรือเกิดสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ภายในแล้วล่ะก็ จะส่งผลเสียไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ ในระบบลูกตาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยครับ

หลายคนคงสงสัยใช่ไหมล่ะครับว่า ดวงตาของเราจะสกปรกได้อย่างไร? สิ่งสกปรกเล็ดลอดเข้ามาในตาของเราตอนไหน? คำตอบง่ายมากครับ มันปะปนมาจากความเคยชินในการใช้ชีวิตประจำวันนี่แหละครับ (ขับรถโดยไม่สวมแว่นกันแดด ถ่ายรูปเปิดแสงแฟลช ทำงานกลางแจ้งแดดจ้า เพ่งสายตาในความมืด จ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ขยี้ตาเวลาที่รู้สึกระคายเคือง) ไปจนถึงปัจจัยแวดล้อมทางธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยครับ เช่น มลพิษต่างๆ (ควันไฟ ฝุ่น PM 2.5 ขี้เถ้า ดินทราย ถนนลูกรัง)

ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว หากเกิดภาวะน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาสกปรกและอุดตันจะเกิดอะไรขึ้นตามมา? มันจะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการระบายน้ำออกจากดวงตา น้ำในตาระเหยไวขึ้น การผลิตน้ำตาลดลง สารอาหารจะไม่สามารถไหลเวียนผ่านไปยังเลนส์ม่านตาหรือจอประสาทตาได้ดังเดิม รวมถึงระดับความดันในตาจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

เปรียบเสมือนว่าคุณกำลังรับประทานอาหารอยู่ดีๆ แต่ดันมีเศษอาหารติดคออุดตันอยู่ในหลอดลมของคุณ ซึ่งมันจะทำให้คุณขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้เลยครับ ในกรณีนี้ก็เหมือนกัน จากที่มีสัญญาณเตือนเพียงแค่คันตา น้ำตาไหล แสบตา แต่เมื่อปล่อยไว้นาน อวัยวะภายในระบบจะค่อยๆ หยุดทำงานและเกิดอาการแทรกซ้อนตามมามากมาย อาจลุกลามรุนแรงจนสามารถทำลายจอประสาทตาและทำให้ตาบอดได้ในที่สุด

ภาพแสดงส่วนประกอบต่าง ๆ ในดวงตามนุษย์

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีวิธีการรักษาโรคตาที่ทันสมัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแว่นสายตา คอนแทคเลนส์ ยาหยอดตา แสงเลเซอร์หลายประเภท รวมถึงการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคตาชนิดต่างๆ ก็ตาม แต่ทุกวิธีที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นการรักษาที่ปลายเหตุทั้งนั้นครับ คุณจะพึ่งวิธีการพวกนี้ก็ต่อเมื่ออาการของคุณกำลังแย่แล้วยังไงล่ะครับ และปัจจัยอีกหนึ่งอย่างที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ อายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี เมื่อเราอายุมากขึ้น อวัยวะในร่างกายย่อมแก่ตัวและทำงานลดลงตามไปด้วย เส้นประสาทตาจะเริ่มเสื่อมสภาพ การมองเห็นเบลอไม่ชัดเจน แสบตาหรือตาแดงโดยไม่ทราบสาเหตุ สัญญาณเตือนเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความยากลำบากในการใช้ชีวิตและการทำงานเป็นอย่างมากครับ

ดังนั้นการให้ความสำคัญกับน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาต่างหากที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นและยืดอายุดวงตาให้อยู่กับคุณนานขึ้นได้อย่างน้อยอีก 5 ปี ผมแนะนำให้ทุกคนทำความสะอาดและเพิ่มปริมาณน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาแบบถาวรดีกว่าครับ สิ่งนี้เป็นการรักษาที่ผมได้ค้นคว้ามาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี โดยผ่านการพิสูจน์จากศูนย์จักษุวิทยาแห่งเอเชียแล้วว่าสามารถชะลอความเสื่อมสภาพของดวงตาได้อย่างแท้จริง และเห็นผลดีในระยะยาวมากกว่าทุกวิธีที่มีอยู่ในปัจจุบันครับ

ผู้สื่อข่าว : ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว หากปล่อยให้น้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาสกปรกเสี่ยงที่จะเกิดโรคอะไรตามมาได้บ้างคะ?

ดร.ทวีศักดิ์ : ผมหวังว่าสิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้จะทำให้ทุกคนหันกลับมาสังเกตอาการตัวเองบ้างนะครับ แน่นอนว่าอวัยวะต่างๆ ที่ใช้ในการมองเห็นย่อมได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างแน่นอนครับ

โรคเรื้อรังต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติของดวงตา เช่น :

ต้อกระจก

เกิดจากการเสื่อมสภาพของเลนส์ตา จากปกติที่มีสภาพใสเปลี่ยนกลายเป็นขุ่นมัวจนทำให้แสงผ่านเข้าดวงตามาได้น้อยลง บดบังทัศนียภาพในการมองเห็นและไม่สามารถรับภาพหรือมองเห็นได้ชัดเจนดังเดิม

ต้อหิน

เป็นผลโดยตรงจากสภาวะความดันในลูกตาสูง เร่งให้เกิดความเสื่อมของเส้นประสาทตาจนทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักไม่มีอาการถือเป็นภัยเงียบที่ควรต้องระวัง

ต้อลมหรือต้อเนื้อ

เกิดจากภาวะอักเสบของเยื่อบุตาสีแดงเข้มยื่นเข้าไปปิดบังรูม่านตา มักเกิดอาการคันตา แสบตา มองภาพไม่ชัด หรือเห็นภาพซ้อน จนตาบอดได้

วุ้นตาเสื่อม

พบมากในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50+ และกลุ่มคนที่มีค่าสายตาสั้นมาก สาเหตุมาจากการเปลี่ยนสภาพของน้ำในวุ้นตา ทั้งการกลายเป็นของเหลวหรือเปลี่ยนเป็นจับตัวเป็นก้อน ส่งผลโดยตรงต่อการมองเห็นเป็นเงาดำหรือจุดดำเล็กๆ เส้นๆ

จอประสาทตาเสื่อม

จุดรับภาพบริเวณกลางจอประสาทตาเสื่อมสภาพลง มักมีอาการมองภาพไม่ชัด ตาพร่ามัว ขณะมองจะมีจุดดำรบกวนอยู่กลางภาพ แม้จะยังช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ทำกิจกรรมบางอย่างไม่ได้เหมือนเดิม เช่น อ่านหนังสือ เย็บผ้า เล่นกีฬา

เบาหวานขึ้นตา

ความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากโรคเบาหวาน สาเหตุมาจากน้ำตาลในเลือดสูงจึงทำให้หลอดเลือดและเส้นประสาทที่เกี่ยวโยงกับดวงเสื่อมลง ร้ายแรงจนถึงขั้นทำให้ตาบอดได้

ตาบอดสี

ความบกพร่องของเลนส์ตาทำให้เกิดความผิดพลาดในการแยกแยะความต่างของสี ไม่สามารถบอกสีได้ถูกต้อง ซึ่งรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก

หลายคนอาจไม่ทราบว่าตัวเองมองเห็นไม่ชัดเจนเพราะเกิดความเคยชิน แต่ผมขอเตือนด้วยภาพของภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังที่อาจเกิดขึ้นได้ให้รับชมกันนะครับ

เลนส์ตาของผู้ป่วยต้อกระจกจะเป็นสีขาวขุ่นมัวอยู่ในตาดำ ทำให้สายตาเลือนราง มองภาพไม่ชัด

ต้อเนื้อและต้อลม จะมีผังผืดบดบังเยื่อบุตา มักพบบริเวณหัวตาและลุกลามเข้าตาดำจนปิดกั้นการมองเห็น

ภาวะจอประสาทตาเสื่อม จะมองเห็นภาพบิดเบี้ยว มีจุดดำตรงกลางภาพ การมองเห็นสีลดลง

สถานการณ์โรคตาในประเทศไทยตอนนี้น่าเป็นห่วงมากๆ ครับ ขณะนี้อัตราผู้ป่วยที่ประสบปัญหาโรคเกี่ยวกับดวงตากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ในปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตมากถึง 65,695 คน อัตราผู้เสียชีวิตจากโรคนี้มากพอๆ กับผู้ป่วยโรคเบาหวานเลยนะครับ!

เนื่องจากดวงตาถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความซับซ้อนมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากกรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม หรืออายุที่มากขึ้นก็ตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อดวงตา ผลกระทบที่ว่านั้นอาจมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้น อย่างอาการไม่สบายตาไปจนถึงปัญหาด้านการมองเห็น หรือในกรณีรุนแรงที่สุดอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อดวงตาและส่งผลถึงการมองเห็นจนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เช่น การทำงาน การขับรถ การอ่านหนังสือ การเล่นกีฬา

จากผลการศึกษาจำนวนผู้ป่วยที่มีปัญหาทางสายตาในประเทศไทย มักเกิดขึ้นในช่วงอายุราวๆ 40 ปีขึ้นไป สำหรับคำแนะนำในส่วนของผม ผมคิดว่าหากพวกคุณมีอายุเท่านี้หรือมากเกินกว่านี้แล้ว พวกคุณทุกคนควรรีบดูแลสุขภาพสายตาตัวเองตั้งแต่ตอนนี้เลยจะดีที่สุดครับ!

ผู้สื่อข่าว : มีอาการอะไรบ้างเหรอคะที่บอกได้ว่าปริมาณน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาไม่เพียงพอ?

ดร.ทวีศักดิ์ : เป็นอาการที่คุณคาดไม่ถึงกันเลยล่ะครับ เพราะบางอย่างอาจดูเป็นเรื่องง่ายๆ และเคยชินกันในชีวิตประจำวัน แต่ความเป็นจริงแล้วมันคือสัญญาณเตือนที่ต้องเฝ้าระวังให้ดีเลยครับ

สายตายาว สายตาสั้น
แสบตา ตาแดง
ตาแห้ง เปลือกตาอักเสบ
คันและระคายเคืองตา
ตาพร่ามัว มองภาพไม่ชัด
ตาไวต่อแสง สู้แสงไม่ได้
น้ำตาไหลแบบไม่มีสาเหตุ
ปวดตา ตากระตุก
มองเห็นเป็นจุดดำหรือใยแมงมุม
คลื่นไส้ อาเจียน
มีขี้ตาและเหมือกเหนียวอยู่บริเวณตา

ผู้สื่อข่าว : แล้วการค้นพบใหม่ของคุณคือวิธีใดคะ สามารถช่วยเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาและฟื้นฟูการมองเห็นได้จริงเหรอ?

ดร.ทวีศักดิ์ :

วิธีการของผม คือ การเพิ่มปริมาณน้ำหล่อเลี้ยงจำเป็นให้แก่ดวงตา ยิ่งมีปริมาณน้ำเพียงพอมากเท่าไหร่ สารอาหารจำเป็น วิตามิน และแร่ธาตุก็จะยิ่งไหลเวียนไปได้ทั่วทุกส่วนในระบบการมองเห็นครับ เมื่อมีน้ำไหลเวียนทั่วถึง กระบวนการทำงานทุกอย่างก็จะเป็นปกติ ไม่ติดขัด หรือมีอาการแทรกซ้อนใดๆ

ผมใช้เวลาศึกษาค้นคว้าวิธีการนี้อย่างแน่วแน่มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยผมเลือกที่จะวิจัยส่วนผสมสมุนไพรจากธรรมชาติก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเริ่มทดลองมาเรื่อยๆ บางชนิดต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ บางชนิดก็ต้องออกไปตามหาในต่างจังหวัดเลยครับ

จนในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ! ผมได้คิดค้นสูตรสำหรับฟื้นฟูการมองเห็นและบำรุงสายตาจากการปรับสภาพน้ำหล่อเลี้ยงดวงตา สูตรของผมจึงออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Oclarizin

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Oclarizin แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นตรงที่จะเข้าไปช่วยกระตุ้นต่อมเนื้อเยื่อภายในดวงตาและปรับปรุงระบบการไหลเวียนน้ำตาให้เข้าไปเลี้ยงดวงตาอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นประสาทที่ 4 และ 6 ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเคลื่อนไหวของดวงตา กระบอกตา เลนส์ตา กล้ามเนื้อตา รวมถึงจอประสาทตา

อย่างไรก็ตาม สูตรของผลิตภัณฑ์นี้ได้ผ่านการคัดสรรและผสมผสานส่วนผสมของสมุนไพรจากธรรมชาติแท้ 100% จึงยืนยันได้ว่ามีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูการมองเห็นขั้นสูงสุดและปลอดภัยที่สุดในผลิตภัณฑ์ที่มีตามท้องตลาดขณะนี้ครับ

อ้างอิงจากผลการทดลองของศูนย์จักษุวิทยาอิสระแห่งภูมิภาคเอเชีย พบว่า กลุ่มอาสาสมัคร ที่สมัครใจร่วมใช้ผลิตภัณฑ์ Oclarizin ครบคอร์สตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ จำนวนทั้งสิ้น 4,289 คน ผลลัพธ์ที่ได้ปรากฎออกมาดังนี้ครับ

ผลการทดลองจากอาสาสมัครผู้ร่วมใช้ Oclarizin พบว่า:

การมองเห็นกลับมาชัดเจนเป็นปกติในระยะเวลา 30 วัน – 95% ของอาสาสมัครผู้เข้าร่วมทดลอง
น้ำหล่อเลี้ยงดวงตาได้รับการทำความสะอาดและมีปริมาณเพียงพอ – 97% ของอาสาสมัครผู้เข้าร่วมทดลอง
ค่าสายตาอยู่ในระดับคงที่และไม่เพิ่มสูงขึ้น – 89% ของอาสาสมัครผู้เข้าร่วมทดลอง
ไม่ประสบกับอาการแทรกซ้อนใดๆ เกี่ยวกับดวงตาอีก – 98% ของอาสาสมัครผู้เข้าร่วมทดลอง
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงให้แก่ดวงตา – 100% ของอาสาสมัครผู้เข้าร่วมทดลอง
มีความปลอดภัยและปราศจากผลข้างเคียง – 100% ของอาสาสมัครผู้เข้าร่วมทดลอง

ผู้สื่อข่าว : จะสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ Oclarizin ได้จากที่ไหนและมีราคาเท่าไหร่คะ?

ดร.ทวีศักดิ์ : ผมยึดมั่นมาตลอดว่าผู้ป่วยทุกคนควรมีสิทธิเข้าถึงผลิตภัณฑ์ดีๆ แบบนี้ได้โดยไม่เดือดร้อนทางการเงิน ดังนั้นทุกคนไม่ต้องกังวลเลยครับว่าผลิตภัณฑ์ Oclarizin จะมีราคาแพงเหมือนผลิตภัณฑ์อื่นในท้องตลาด เพื่อที่พวกคุณจะได้เริ่มดูแลดวงตาและฟื้นฟูการมองเห็นตั้งแต่วันนี้ครับ

ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว ผมและทีมวิจัยได้ตัดสินใจมอบ

ส่วนลดพิเศษ 50% ให้กับทุกคนด้วยครับ เพียงแค่กรอกแบบฟอร์มทางการด้านล่าง โดยใส่ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และกดสั่งซื้อ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ Oclarizin ติดต่อกลับไป โปรโมชั่นส่วนลดนี้จะสิ้นสุดในวันที่ เท่านั้น

เงื่อนไขการรับส่วนลดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Oclarizin ในราคาโปรโมชั่น

ประชาชนคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ Oclarizinใช้เป็นการส่วนตัวเท่านั้น
ไม่นำผลิตภัณฑ์ไปแจกจ่ายต่อ
กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและทำการสั่งซื้อผ่านแบบฟอร์มทางการ

แบบฟอร์มการสั่งซื้อ

หมายเลข 11982, มีผลจนถึงวันที่ 10.10.2567

รับส่วนลด Oclarizin ในราคา 990 บาท

หากต้องการรับ Oclarizin พร้อมส่วนลด 50% ให้กรอกชื่อ-นามสกุลและหมายเลขโทรศัพท์ลงในช่องว่างด้านล่าง และคลิกปุ่ม "สั่งซื้อ"

ชื่อ-นามสกุล:

หมายเลขโทรศัพท์:

โปรโมชั่นส่วนลดราคานี้จะอยู่ถึงวันที่: 10.10.2567

*ข้อมูลของคุณจะถูกเก็บเป็นความลับและส่งตรงถึงผู้ผลิตโดยตรง นอกจากผู้ผลิตแล้วไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้*

เพิ่มเมื่อ 12 ชั่วโมงที่แล้ว| หมายเหตุจากศูนย์วิจัยจักษุวิทยา

ประกาศ! ตอนนี้มีโปรโมชั่นส่วนลดที่สามารถใช้ได้กับทุกจังหวัดในประเทศไทย โดยส่วนลดนี้ใช้ได้ภายในวันที่ เท่านั้น ทุกคนสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์Oclarizin พร้อมส่วนลด 50% ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์คงเหลือ 23 กล่อง เท่านั้น

ความคิดเห็น:

พรรณษา ไชยกิจ

น่าสนใจมากเลยค่ะ เราสั่งซื้ออาหารเสริม Oclarizin แล้วล่ะค่ะ เพราะตอนที่ทางผู้ที่ให้คำปรึกษาจากบริษัทโทรมา เขาแจ้งว่ามีผลิตภัณฑ์เหลือน้อยแล้วเลยรีบสั่งทันทีค่ะ

ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧ ในเวลานั้น

ชนาภา ห้าวหาญ

เราลองแล้วล่ะค่ะ เมื่อก่อนสายตาสั้น 500 ตอนนี้ผ่านมา 5-6 เดือนแล้ว ค่าสายตาไม่เพิ่มขึ้นเลยค่ะ มองชัดเจนขึ้นมาก ปังสุดๆๆ รู้สึกสุขภาพดีขึ้นมาก

เงื่อนไขการรับส่วนลดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Oclarizin ในราคาโปรโมชั่น

แบบฟอร์มการสั่งซื้อ

พรรณษา ไชยกิจ

ชนาภา ห้าวหาญ

พิมพ์วิภา สังข์แก้ว

อลงกรณ์ เกื้อกูลไพศาล

จรรยา เดชดำรงกุล

สุรชัย ทรัพย์ทวีสิน

บรรเจิด ตันไพเราะห์

วรรณา เกิดดวงแก้ว

สมเจตน์ สุขสวัสดิ์

ทศพล ทวีสมบูรณ์ญาติ

พร้อมพงษ์

มณี ช่างสัน

สมภพ เจิดจำรัส

ทัศนีย์ รักษุธาการ

มะลิวัลย์ ธนกูลกิจ

ศรีสุดา สำเภาทอง

สุพรรณษา เรืองรุงโรจน์

ศรีสุดา สำเภาทอง

สุพรรณษา เรืองรุงโรจน์

วรรณี สุขประเสริฐ

พารุณี อรุณรุ่ง

ขนิษฐา เนื่องภิรมย์

กานดา เฉ่งฉุ้น

สุพรรณษา เรืองรุงโรจน์

สุนิตา ปรีดากุล

จุฑามาศ เอื้ออำนวย

พัชราภร เลิศล้ำ

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง