วันที่ 3 ธันวาคม 2563 ในกรุงเทพ เกิดเรื่องราวที่น่าขบขัน เมื่อชายคนหนึ่งเพิ่งเห็นบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าสาวตัวเองเป็นครั้งแรกในงานแต่งงานจนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้น กลายเป็นว่าหญิงสาวที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยนั้น ในปีนี้เธอมีอายุครบ 64 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา กัญญา ชุมมะ ปิดบังอายุตัวเองมาตลอดและบอกกับ อธิวัฒน์ ภาวิไล ว่าเธอมีอายุเพียง 29 ปี ร่างกายและใบหน้าของเธอแลดูอ่อนเยามาก จนชายหนุ่มเดาไม่ออกเลยว่าอายุของเธอนั้นมากกว่าที่เธอบอกไปถึงสองเท่า


กัญญา ชุมมะ

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้คนหลายพันคนอยากทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในไทย

นี่คือสิ่งที่ อธิวัฒน์ ภาวิไล กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

คุณคงไม่เชื่อว่าผมช็อคขนาดไหนตอนที่เห็นอายุจริงของ กัญญา ชุมมะ เธอดูเหมือนกับผู้หญิงวัย 30 ไม่มากไปกว่านี้ ในหัวผมเลยไม่คิดเลยว่าอายุจริงๆ ของเธอจะมากกว่าที่เห็นมาก ตลอดเวลาที่เราคบกันมาหนึ่งปีผมมีความสุขมากและก็หลงรักเธอ แต่พอตอนวันแต่งงานแล้วผมเห็นบัตรประจำตัวประชาชนของเธอ ผมตกใจมากจนตะโกนใส่ กัญญา ชุมมะ จากนั้นก็วิ่งออกจากงานแต่งงานไป

เป็นเวลาเดือนกว่าที่ผมอยู่ในความสับสนและไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป แต่หลังจากนั้นผมก็เข้าใจว่า จริงๆ แล้วอายุของกัญญา ชุมมะ ก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข แล้วถ้าหากว่าไม่ได้มองที่ตัวเลขนี้ เธอก็ดูน่ารักสวยในแบบของเธอและรูปร่างเธอผู้หญิงหลายคนก็พากันอิจฉา ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วผมจะไปกลัวทำไม มันก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรตรงไหนเลยที่คบกับผู้หญิงคนนี้ หลังจากที่ผมคิดดีแล้วผมก็กลับไปหา กัญญา ชุมมะ แล้วผมก็ให้อภัยที่เธอโกหกผมและได้ขอเธอแต่งงานอีกครั้ง ตอนนี้เราแต่งงานกันแล้ว และได้เดินทางไปฮันนีมูนมาเรียบร้อย ตอนนี้เราสองคนกำลังมีลูกด้วยกัน เราทั้งสองมีความสุขมากๆ

ทางกองบรรณาธิการของเรารู้สึกประหลาดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางเราเลยตัดสินใจขอสัมภาษณ์ กัญญา ชุมมะ

ผู้สัมภาษณ์: สวัสดีครับคุณ กัญญา ชุมมะ รบกวนเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับว่าทำไมคุณถึงดูดีและยังสาวเช่นนี้ และเพราะอะไรคุณถึงปกปิดอายุที่แท้จริงของตัวเองไม่ให้ อธิวัฒน์ ภาวิไล ได้รู้

สวัสดีค่ะ เอาอย่างนี้นะคะ ถ้าเกิดดิฉันบอกอายุของตัวเองไปตอนนี้ว่าดิฉันอายุ 64 ปี คุณจะเชื่อดิฉันไหม (หัวเราะ) มันจะยิ่งดูแล้วประหลาดเข้าไปใหญ่ อย่างที่คุณเห็นหน้าและผิวของดิฉันจะว่าอายุ 40 ก็ไม่น่าจะถึง เพราะฉะนั้นจะให้ดิฉันบอกว่าอายุ 64 ปีมันก็คงไม่มีใครเชื่อ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ตอนที่ดิฉันเจอกับชายหนุ่มหล่ออย่างคุณ อธิวัฒน์ ภาวิไล ดิฉันเลยไม่บอกอายุของตัวเอง เพราะไม่อยากให้เขาตกใจ ยิ่งความสัมพันธ์ของเราสองคนในเวลานั้นก็กำลังไปได้สวย

ผู้สัมภาษณ์: ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่าคุณอายุ 64 ปี ด้านหน้าของผมตอนนี้คือหญิงสาวที่ถ้าให้ผมบอกอายุมากที่สุดผมให้แค่ 35 ปี มันเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร รบกวนเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ

เมื่อ 12 ปีที่แล้วดิฉันเลิกกับสามี ตอนนั้นดิฉันมีอายุได้ 52 ปี สามีหนีไปหาผู้หญิงอื่นที่เขาสวยและสาวกว่าดิฉัน หลังจากที่เลิกกับสามีไปแล้ว 2 ปี ดิฉันก็ได้แต่ซึมเศร้าจนหมอให้ยาคลายเครียดมาทาน แต่สภาพจิตใจดิฉันก็ยังไม่กลับมาเป็นปกติอยู่ดี

จนวันหนึ่ง ดิฉันก็ตัดสินใจแน่วแน่ ว่าจะทำให้ทุกคนได้รู้ว่าผู้หญิงอย่างดิฉันก็สามารถสวยและแลดูสาวได้ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

ดิฉันเริ่มใช้จ่ายเงินไปกับผลิตภัณฑ์เพื่อความอ่อนเยาต่างๆ ที่โฆษณาอยู่ตามทีวี แต่ก็ไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ใช้แล้วได้ผลเลยซักตัว จากนั้นดิฉันก็เริ่มเข้าคอร์สเสริมความงามราคาแพงในกรุงเทพ แต่ก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนทำให้ดิฉันเข้ใจได้ว่า มันคงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการลองหาส่วนประกอบจากธรรมชาติที่เหมาะกับตัวเองมาทดลองแล้วใช้เอง จะได้เข้าใจว่าส่วนประกอบตัวไหนดีไม่ดีอย่างไร ดิฉันเรียนจบด้านเภสัชศาสตร์ และมีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว 30 ปี ดังนั้นการสกัดสารจากพืชและสมุนไพรที่จะลองนำมาใช้กับตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับดิฉัน

ผู้สัมภาษณ์: น่าสนใจมากๆ เลยครับ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณทำได้จริงๆ

อย่างที่คุณเห็นหน้าดิฉันตอนนี้แหละค่ะ ใช่ค่ะ มันใช้แล้วได้ผลจริงๆ (หัวเราะ) เป็นเวลามากกว่า 3 ปีแล้วที่ดิฉันลองสูตรครีมกับตัวเองมาแล้วมากมาย ผลที่ได้บางทีก็ไม่มีเลยหรือบางทีก็เห็นผลน้อยมากๆ แต่ดิฉันก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ พอดิฉันอายุได้ 57 ปี ในที่สุดดิฉันก็สามารถทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อให้เกิดขึ้นได้ หลังจากได้สูตรนี้มาดิฉันก็ใช้ครีมสูตรนี้ประจำและผ่านไป 7 วัน เพื่อนๆ ของดิฉันก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าดิฉัน ตอนนั้นดิฉันไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่พอหลังจากนั้นได้ 30 วันหลังจากที่ดิฉันใช้ครีมสูตรใหม่นี้ ทั้งเพื่อนและญาติๆ ของดิฉันจำดิฉันไม่ได้เลย!

คุณลองคิดดูก็แล้วกัน เวลาที่คุณไปร้านตัดผมเจ้าประจำปกติแล้วเค้าจะทักทายคุณแต่พอเจอหน้าเหมือนทำเป็นไม่รู้จักซะอย่างนั้น ตอนนั้นตลกมาก จนหลังจากที่ดิฉันโชว์บัตรประจำตัวให้ดู เขาถึงเชื่อว่าเป็นดิฉันจริงๆ จนถึงตอนนี้ยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้อยู่เลยว่าช่างตัดผมทำท่าประหลาดใจอย่างไร เขาบอกกับดิฉันว่า “มันเป็นไปไม่ได้ เมื่อเดือนที่แล้วผู้หญิงที่มาหาฉันคือผู้หญิงแก่ๆ ที่มีสีหน้าเศร้าๆ แต่ตอนนี้ฉันเห็นสาวสวยที่มีสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุข นี่มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ”

มันไม่ได้เหลือเชื่ออย่างที่คิด วันนั้นดิฉันเข้าใจว่า ดิฉันสามารถสร้างสิ่งที่มีคุณค่าที่ไม่มีใครคาดคิดและเป็นสิ่งที่หลายคนกำลังต้องการมัน ตอนนั้นดิฉันเขียนจดหมายเป็นหลายฉบับแล้วส่งไปที่ศูนย์วิทยาศาสตร์หลายๆ แห่งในกรุงเทพ

ผู้สัมภาษณ์: แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ

ทุกบริษัทที่ติดต่อไปตอบดิฉันกลับมาหมดค่ะ แล้วก็เสนอเงินให้กับดิฉันก้อนโตสำหรับสูตรครีมที่ดิฉันคิดค้นขึ้นมา แต่ที่ดิฉันแปลกใจมากๆ ก็คือตอนที่เค้าบอกดิฉันว่าจะขายครีมตัวนี้ในราคา 25000 บาท ตอนนั้นดิฉันอธิบายเค้าไปว่าในส่วนประกอบตัวครีมที่ดิฉันทำขึ้นมันมาจากพืชและสมุนไพรที่ขึ้นอยู่ในประเทศไทย ดังนั้นต้นทุนในการผลิตตามสูตรของดิฉันมันถูกมากๆ พวกเขาตอบกลับมาว่า หลังจากนี้มันไม่ใช่เรื่องของฉันอีกต่อไป เพราะหลังจากนี้เค้าจะเป็นคนขายผลิตภัณฑ์ตัวนี้ด้วยราคาเท่าไหร่ก็ได้ตามที่เค้าต้องการ

ผู้สัมภาษณ์: แล้วคุณทำอย่างไรต่อครับ

ดิฉันคิดว่าผลิตภัณฑ์ของดิฉันทุกคนจะต้องสามารถเข้าถึงได้ ดังนั้น ดิฉันเลยปฏิเสธการขายสูตรครีมตัวนี้ให้กับทุกบริษัทที่เสนอมา และตัดสินใจผลิตครีมตัวนี้ออกจำหน่ายเอง ดิฉันกู้เงินจากธนาคารมา แล้วก็จ้างเภสัชกรที่ดีที่สุดของประเทศเพื่อจัดทำโรงงานผลิตของตัวเอง แล้วเราก็ผลิตครีมออกมาขายโดยไม่ได้ขายในราคา 25000 บาท แต่ขายเพียงแค่ 1980 บาท ครีมตัวนี้มีชื่อว่า Everlift ดิฉันคิดว่าจากการที่เราเป็นผู้ผลิตเองและวางขายในราคาไม่แพงเช่นนี้ จะทำให้คนไทยส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และสามารถซื้อไปลองกับตัวเองและจะได้พบกับความสุขแบบที่ดิฉันเคยได้พบมาแล้ว ความสุขที่ได้มีชีวิตใหม่ ความรักใหม่ และความรู้สึกใหม่ๆ ที่รู้สึกว่าในวัย 64 ปีแบบนี้ยังมีคนที่ต้องการเราอยู่ และต้องการเราจริงๆ

ผู้สัมภาษณ์: ผมยอมรับในตัวคุณจริงๆ ครับ คุณยอมเสี่ยงที่จะไปกู้เงินมากมายจากธนาคาร ไม่ทราบว่าตอนนี้จ่ายคืนหมดหรือยังครับ

ยังเลยค่ะ เงินที่กู้มายังจ่ายไม่หมด ตามแพลนของเราถ้าเราขายในราคา 1980 บาท เราจะสามารถคืนเงินแบงค์ได้หมดภายใน 4 ปี แต่ดิฉันก็ยอมที่จะอยู่ในสถานะนี้ ขอเพียงแค่ให้ Everlift สามารถเข้าถึงทุกคนได้ก็พอ ดิฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ เหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วไป ที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ และในชีวิตฉันผ่านอะไรมามากมาย ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตาม แต่รูปลักษณ์ภายนอกของผู้หญิงยังไง ยังไงมันก็เป็นส่วนหนึ่งของความสุขของผู้หญิง ดังนั้นไม่ว่าชีวิตเราจะแก่ไปขนาดไหนก็ตามเราก็ต้องพยายามรักษาความสวยงามให้ยาวนานที่สุด และการสร้างผลิตภัณฑ์ที่สุดยอดตัวนี้ ทำให้เราสามารถต่อสู้กับริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ จะเห็นได้ว่า Everlift หลังจากใช้ไปเพียง 30 วัน สามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้กลับไปได้ 20-30 ปี จากประสบการณ์ที่ดิฉันใช้มา ในวัย 64 ปีของดิฉัน ดิฉันรู้สึกมีความสุขมากๆ ดิฉันมีสามีหนุ่ม และหล่อ และตอนนี้ดิฉันก็ตั้งท้องลูกของเราได้สามเดือนแล้ว ดิฉันขอให้ผู้หญิงทุกคนอย่าสิ้นหวังและต่อสู้เพื่อความสุขของตัวเองต่อไป

เราได้สัมภาษณ์ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง หัวหน้าศูนย์ผิวหนังและความงามแห่งเอเชีย ครรชิต คชรัตน์ นี่คือสิ่งที่คุณหมอได้กล่าวไว้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้


จากเรื่องราวที่คุณ กัญญา ชุมมะ สามารถคิดค้นสูตรครีมที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ได้นี้ เป็นเรื่องราวที่เกือบจะเป็นไปไม่ได้เลย ในกรณีนี้หมายถึงการเลือกส่วนประกอบจากธรรมชาติที่ถูกต้องและในสัดส่วนที่เหมาะสม จากการที่รวมเอาส่วนประกอบจากสารสกัดธรรมชาติต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เธอสามารถผลิตหนึ่งในตัวครีมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหนังและใบหน้าได้ ปัจจุบันครีมตัวนี้ไม่ได้มีวางขายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังวางขายไปทั่วโลกอีกด้วย

ตอนที่เราได้ทำการวิจัย Everlift เราเองก็ไม่เชื่อว่าถึงความเป็นไปได้ของตัวครีมนี้ แต่หลังจากที่ทำการทดสอบทางคลินิคไปแล้ว ทำให้เราต้องแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ได้ Everlift มีประสิทธิภาพและใช้ได้ผลจริงๆ สามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ และที่สำคัญส่วนประกอบในตัวครีมนี้เป็นส่วนประกอบที่ได้จากสารสกัดธรรมชาติล้วน ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นอันตรายใดๆ ซึ่งต่างจากส่วนส่วนใหญ่ที่วางขายอยู่ในท้องตลาดในเอเชีย ปัจจุบันครีม Everlift ได้รับใบรับรองผลิตภัณฑ์และมาตรฐานในการผลิตเรียบร้อยแล้ว



จากเรื่องราวโด่งดังที่ชายหนุ่มวัย 32 ปีหนีออกจากงานแต่งงานกลายเป็นเรื่องที่รู้จักกันไปทั่วประเทศ หลายคนต่อว่าชายหนุ่มคนนี้ที่ชื่อว่า อธิวัฒน์ ภาวิไล แต่ลองดูสิว่าเรื่องราวนี้ในที่สุดแล้วจบลงอย่างไร ในที่สุดเขาก็กลับไปหาหญิงคนรัก และก็ได้แต่งงานกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจนถึงตอนนี้ ส่วนสูตรครีมที่ กัญญา ชุมมะ ได้คิดขึ้นมาก็ทำให้ได้รับการตอบรับมากมายจากทั่วโลก ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์คืนความอ่อนเยาว์ตัวนี้ทำลายทุกสถิติที่มีมา และที่สำคัญต้องขอบคุณบริษัทผู้ผลิตที่ทำให้ครีมตัวนี้มีราคาถูกกว่าครีมแบรนด์ตัวอื่นๆ ในท้องตลาดหลายเท่า

แต่อย่างไรก็ตาม เราก็เข้าใจว่า ในราคา 1980 บาทนี้ ก็ยังคงเป็นราคาที่แพงไปสำหรับลูกค้าบางคน ดังนั้น เราจึงขอให้ กัญญา ชุมมะ ลดราคาลงจากที่เป็นอยู่เท่าที่เธอจะสามารถทำได้ และไม่ว่าเธอจะมีหนี้ในธนาคารอยู่ขนาดไหน แต่เธอก็ได้ตอบตกลง

ในช่วงโปรโมชั่นนี้ Everlift ลูกค้าสามารถซื้อได้ในราคาลด 50% โดยขายเพียง 990 บาท โดยจะหมดเขตลงในวันที่ 16.09.2567 ในช่วงโปรโมชั่นทุกคนสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้ในราคา 990 บาท เพียงแค่คุณกรอกชื่อ และเบอร์โทร ลงในแบบฟอร์มด้านล่างนี้ หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังติดต่อกลับไปเพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Everlift


1980 THB

990 THB


เวลาที่เหลือ: 12:12:16



รับส่วนลด 50%